สร้างเว็บEngine by iGetWeb.com

พระพิฆเณศ

พระพิฆเณศ


รูปพระพิฆเณศ

พระคเณศหรือพระพิฆเนศวรนั้นได้ชื่อว่าเป็นเทพสากลทั้งนี้เพราะบัญญัติแห่งศาสนา
พิธีพราหมณ์-ฮินดูได้สถาปนาให้เป็นเทพพระองค์แรกซึ่งต้องกราบไหว้บูชาก่อนเริ่มมงคลพิธีใด ๆ ทั้งทางโลกและทางธรรมยกเว้นงานเดียวที่ต้องห้ามอาราธนา คือ งานศพ ด้วยถือว่าเป็นอวมงคลพิธี
พระคเณศ ชาวทมิฬเรียก Pillaiyar ธิเบตเรียก tsoge - bdag พม่าเรียก Maha-pienne จีนเรียก Kangi-ten เขมรเรียก Prah kenes ญี่ปุ่นเรียก Sho-ten , Vinyaksa
พระคเณศเป็นเทพแห่งการขจัดอุปสรรค เป็นเครื่องกีดขวาง ดังนั้นการเคารพ นอบน้อมและพลบูชาเพื่อขจัดความขัดข้อง ทั้งหลายให้สิ้นไป ทั้งนี้เพื่ออำนวยความสำเร็จ
คาถาบูชา โอม นโม ภัควเต คชานนายะ นะมะหะ

คาถาพระพิฆเณศวร์

โองการพินธุ นาถังอุปปันนัง พรหมมะโน จะอินโธ
พิฆฆะเนศโต มหาเทโว อะหังวันทา มิสัพพะทา สิทธิกิจจัง
สิทธิกัมมัง สิทธิการิยัง ประสิทธิเม

(ใช้สวดเพื่อขอพรหรือปัดเป่าเหตุร้าย)

คาถาบูชาพระพิฆเณศวร์

โอม ตัสสัต โอม มหาเดวะ มหาณัม มหาวัสสกาลัม มหาพิคคะเณ พรหมาณัง วิญญาณัง นมัสสามิ นโมนะมะ
โอม คเณศายะนะมะ หริโอม ศรีคณปตเย นะมะ
สิทธิสวาหะ หริโอม ศรีคณปต เยนะมะ
โอม คเณศายะ นะมะ

โอม ศรี คเณศายะ นะมะ
ข้าแต่องค์พระพิฆเณศ ผู้เป็นเทพเจ้า แห่งศิลปวิทยา เทพแห่งความสำเร็จ
ขอพระองค์จงอำนวยพรชัย ให้ข้าพเจ้าและครอบครัวมีความเจริญในปัญญา ประสบความสำเร็จก้าวหน้าในสัมมาชีพ การงาน การศึกษา ทั้งหลายทั้งปวง
ขอพระองค์จงประทานพรชัย ให้ข้าพเจ้าและครอบครัว เจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ
ขอเทวานุภาพแห่งองค์พระพิฆเณศ อำนวยชัยให้พรแด่กิจการงานต่าง ๆ ของข้าพเจ้า ประสบความเจริญก้าวหน้าวัฒนาถาวรยิ่ง ๆ ขึ้นไป ด้วยเทอญ

ตามรอยธรรม [ 2006-05-11 14:51:13 ]
 
 

 

 
 

1.
ตำนานพระพิฆเณศวร์
เชื่อกันว่า ลัทธิการบูชาพระคเณศนั้น น่าจะมาจากชนพื้นเมืองดั้งเดิมของอินเดีย ซึ่งเป็นลัทธิการบูชาสัตว์ หรือลัทธิแห่งชัยชนะเหนือธรรมชาติ ชนพื้นเมืองของอินเดีย เชื่อกันว่าหนูเป็นสัญลักษณ์ของความมืด พระคเณศทรงขี่หนูจึงหมายถึงชัยชนะของแสงอาทิตย์ที่ขจัดความมืดให้สิ้นสุดลง
พระคเณศอาจจะมีต้นกำเนิดมาจากการเป็นเทพประจำเผ่าของคนป่า ที่อาศัยอยู่ในป่าเขาอันกว้างใหญ่ของอินเดีย คนเหล่านี้ต้องเผชิญกับฝูงช้างอันน่ากลัวจึงเกิดการเคารพในรูปของช้าง เพื่อให้ปกป้องคุ้มครองและพัฒนาต่อมาเป็นเทพชั้นสูงของชาวอารยัน
ต่อมาได้พัฒนาเป็นเทพผู้ขจัดซึ่งอุปสรรค มีความเฉลียวฉลาดเป็นเลิศ ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหัวหน้าของเทพที่มีเศียรเป็นสัตว์ทั้งหลาย จนกระทั่งมีการรจนาปกรณ์ให้เป็นโอรสของพระศิวะเทพและพระนางปราวตีในเวลาต่อมา
แต่ในแง่ของคัมภีร์ทางศาสนาพราหมณ์ได้บรรยายจุดกำเนิดของพระคเณศไว้หลากหลายตำนานตามความเชื่อในแต่ละลัทธิ พอจะสรุปเป็นหลักๆได้ดังนี้
ตำนานที่ 1. วิฆเนศวรปราบอสูรและรากษส
อสูรและรากษสได้ทำการบวงสรวงพระศิวะจนได้คำพรจากพระศิวะหลายประการ ยังให้เหล่าอสูรกลุ่มนี้ฮึกเหิมก่อความเดือดร้อนเป็นอันมาก พระอินทร์จึงทรงนำเทวดาทั้งหลายไปเข้าเฝ้าอ้อนวอนต่อพระศิวะ ขอให้พระองค์สร้างเทพแห่งความขัดข้องขึ้น เพื่อขัดขวางความพยายามของอสูรและรากษส พระองค์จึงทรงแบ่งส่วนกายหนึ่งให้เกิดบุรุษร่างงามจากครรภ์ของพระนางปราวตีและตั้งพระนามว่าวิฆเนศวร เพื่อทำหน้าที่ขวางทางอสูร รากษส และคนชั่วมิให้ทำการบัดพลีเพื่อขอพรจากพระศิวะ ทั้งยังเป็นผู้เปิดทางอำนวยความสะดวกต่อเทวดาและคนดีเพื่อเป็นหนทางสู่ความสำเร็จ
ตำนานที่ 2. ปราวตีนำเหงื่อไคลปั้นเป็นลูก
ครั้งหนึ่ง ชยาและวิชยา พระสหายของนางปราวตีได้แนะนำว่าปกติพระนางมักจะต้องใช้บริวารของพระศิวะอยู่เป็นประจำ ถ้าหากพระนางจะมีบริวารเป็นของตนเองก็คงจะดีไม่น้อย พระนางเห็นด้วย จนวันหนึ่งขณะที่ทรงสรงน้ำอยู่ตามลำพังก็ทรงนึกถึงคำพูดของพระสหายจึงได้นำเอาเหงื่อไคลออกมาสร้างบุรุษรูปงาม สั่งให้ไปยืนเฝ้าทวาร มิให้ใครเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นอย่างนี้มาหลายเพลา จนวันหนึ่งพระศิวะได้เสด็จมา ฝ่ายลูกก็ป้องกันแข็งขัน โดยไม่รู้ว่านั่นคือพ่อพระศิวะโกรธก็เลยสั่งให้ภูติและคณะของตนเข้าสังหารทวารบาลพระองค์นั้น บ้างก็ว่าพระศิวะพุ่งตรีศูลตัดเศียรลูก บ้างก็ว่าพระวิษณุเทพที่มาช่วยรบนั้นใช้จักรตัดเศียร ความทราบถึงพระนางปราวตีจึงเกิดศึกใหญ่ระหว่างเทพและเทพีขึ้นบนสวรรค์
ฝ่ายฤาษีนารอดอดรนทนไม่ได้ จึงได้เป็นทูตสันติภาพขอเจรจากับนางปราวตีเพื่อสงบศึก นางบอกว่าจะสงบศึกก็ต่อเมื่อลูกของนางฟื้นเท่านั้น
พระศิวะจึงสั่งให้เทวดาเดินทางไปทิศเหนือ ให้เอาศีรษะของสิ่งมีชีวิตสิ่งแรกที่พบมาต่อกับโอรสของนางปราวตี ปรากฏว่าเทวดาได้เศียรของช้างซึ่งมีงาเพียงข้างเดียวมา เมื่อพระคเณศฟื้นขึ้นมา ทราบความจริงว่า พระศิวะคือพระบิดาก็ตรงเข้าไปขอโทษเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ พระศิวะพอใจมากประสาทพรให้พระคเณศมีอำนาจเหนือภูติผีทั้งหลายและทรงแต่งตั้งให้เป็นคณปติ
ตำนานที่ 3. ขวางทางคนชั่วไปเทวาลัยโสมนาถและโสมีศวร
พระนางปราวตีทรงเอาน้ำมันที่ใช้ในการสรงน้ำมาผสมกับเหงื่อไคลปั้นเป็นรูปคนแต่มีเศียรเป็นช้างจากนั้นได้เอาน้ำจากพระคงคาปะพรมให้มีชีวิตขึ้น เพื่อทำการขัดขวางแก่คนชั่วที่จะไปบูชาศิวะลึงค์ที่เทวาลัยโสมนาถและเทวาลัยโสมีศวรเพราะคนเหล่านี้หวังจะไปล้างบาปเพื่อมิให้ตกนรกทั้งเจ็ดขุม ด้วยเหตุนี้ การที่วันคเณศจาตุรถี นิยมเอารูปปั้นพระคเณศมาจุ่มน้ำหรือนำเทวรูปปูนชิ้นเล็ก ๆมาทิ้งตามแม่น้ำคงคา ชะรอยจะมาจากความเชื่อที่ว่าน้ำจากแม่พระคงคาจะทำให้พระคเณศมีชีวิตขึ้นมานั่นเอง
ตำนานที่ 4. พระคเณศ กฤษณะอวตาร
พระนางปราวตีมเหสีของพระศิวะไม่มีโอรส พระศิวะจึงทรงแนะนำให้พระนางทำพิธีปันยากพรต (พิธีบูชาพระวิษณุเทพ ในวันขึ้น 13 ค่ำเดือนมาฆะ) มีระยะเวลากำหนด 1 ปีเต็มและเมื่อครบกำหนด พระนางจะได้โอรสซึ่งเป็นพระกฤษณะอวตารไปจุติ ซึ่งทุกอย่างเป็นไปตามคำตรัสของพระศิวะ ทวยเทพทั้งหลายมาร่วมอวยพรในกลุ่มเทพเหล่านี้มีพระศนิ (พระเสาร์) รวมอยู่ด้วย เมื่อพระศนิเหลือบมองพระกุมารทันใดนั้นเศียรกุมารก็ขาดจากพระศอกระเด็นไปยังโคโลกซึ่งเป็นวิมานของพระกฤษณะ
พระวิษณุจึงเสด็จไปยังแม่น้ำบุษปุภัทรเห็นช้างนอนหัวไปทางทิศเหนือจึงตัดเศียรช้างกลับมาต่อให้กับเศียรกุมารที่หายไป ตำนานนี้เข้าใจว่าเป็นเรื่องที่สร้างโดยกลุ่มที่นับถือพระกฤษณะเป็นใหญ่
ตำนานที่ 5. ศิวะ-อุมาแปลงกายเป็นช้างเข้าสมสู่
ครั้งหนึ่งพระศิวะและพระนางปราวตีได้เสด็จมายังแถบภูเขาหิมาลัยได้เห็นช้างสมสู่กันก็บังเกิดความใคร่ พระศิวะจึงได้แปลงเป็นช้างพลาย ส่วนนางปาราวตีแปลงกายเป็นช้างพังร่วมสโมสรจนมีลูกเป็นพระคเณศ

ข้อมูลจาก เว็ป www.sriganapati.com

ตามรอยธรรม [ 2006-05-11 14:57:03 ]
 
 

 

 
 
พระพิคเนตรเทพแห่งการสร้างสรรค์และความสำเร็จสมปรารถนา
2.
การอธิษฐาน
มนต์แห่งพระคเณศเป็นมนต์ที่ให้พลังอำนาจยิ่งใหญ่ มนต์แต่ละบทประกอบไปด้วยอำนาจพิเศษของพระคเณศวร์ เมื่อใดก็ตามที่ได้ท่องสวดพร้อมกับการปรันยัน (อาบน้ำชำระร่างกาย) แล้วประกอบพิธีบูชาจะนำมาซึ่งผลบุญที่ดี
สิ่งสำคัญที่ลืมไม่ได้ก็คือ ผู้ที่จะสวดมนต์แห่พระคเณศควรจะต้องอาบน้ำชำระร่างกายหรือล้างมือล้างเท้าก่อนที่จะนั่งและสวดมนต์ทั้งหลายนี้ เช่นเดียวกัน เขาจะต้องทำปรันยันสามหนหรือมากกว่าก่อนที่จะสวด ต้องสวดมนต์อย่างน้อยให้ได้หนึ่งรอบของลูกประคำ(108ครั้ง) และจะต้องกำหนดชั่วโมงและสถานที่เพื่อการท่องสวดมนตร์จะต้องทำติดต่อกันเป็นประจำ 48 วัน
นั่นหมายความว่าตั้งจิตประกอบสมาธิจำมาซึ่งสิทธิ์และอำนาจอันเร้นลับ ข้อเตือนก็คือ ผู้บูชาจะต้องมีร่างกายที่แข็งแรงไม่เจ็บไข้ในเวลาท่องสวดมนตร์และจะไม่กระทำเพื่อผลประโยชน์ของตนเองอำนาจทั้งหลายนี้จะไม่บังเกิดผลหรือใช้ในทางที่ผิดจะเป็นผลตรงกันข้ามและเป็นที่สาปแช่งของเทวะ
1) โอมฺ คัม คณะปัตเย นะมะหะ
มนตร์นี้ได้มาจากพระคัมภีร์ คเณศ อุปนิษัท ทุกๆครั้งจะต้องเริ่มต้นการสวดมนตร์นี้ก่อนออกเดินทางหรือในการเริ่มต้นบทเรียนใหม่ หรือก่อนเริ่มต้นการทำสัญญาธุรกิจใหม่ ก็เพื่อขจัดอุปสรรคที่จะเกิดขึ้น ต่อไปจะนำมาซึ่งความสำเร็จสมประสงค์
2) โอมฺ นโม ภัควเต คชานนายะ นะมะหะ
มนตร์นี้เป็นมนตร์แห่งการกราบไหว้บูชาที่พระคเณศวร์ทรงโปรดมาก
3)โอมฺ ศรี คเณศายะ นะมะหะ
มนตร์นี้ส่วนมากจะต้องสั่งสอนให้เด็กๆท่องสวดเพื่อความรู้ความฉลาดที่จะได้รับ เพิ่มพลังการจดจำและให้ผลสำเร็จในการสอบ การเล่าเรียน เช่นเดียวกันคนทั่ว ๆไปอาจใช้มนต์นี้ได้ เพื่อความสำเร็จและความเจริญก้าวหน้าในธุรกิจ
4) โอมฺ วักรตุนทายะ ฮัม
มนตร์นี้เป็นมนตร์ที่มีอำนาจมากตามที่พรรณนาไว้ใน พระคเณศ ปุราณะ เมื่อใดเกิดเหตุขัดข้อง ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้แล้วหรือเกิดเหตุร้ายขึ้น ควรทำสมาธิรำลึกถึงพระคเณศด้วยการสวดมนตร์นี้ตลอดเวลา
5) โอมฺ กษิปหะ ปรัสทายะ นะมะหะ
คำว่ากษิประ หมายความถึงความรวดเร็ว ถ้าหากว่าเกิดอุบัติเหตุหรือเกิดบางสิ่งบางอย่างกับตัวท่านหรือบางอย่างเกี่ยวกับธุรกิจการงานที่ไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรแล้วควรจะตั้งจิตมั่นบูชาพระคเณศด้วยการสวดมนตร์นี้โดยเร็ว เพื่อที่จะได้รับพรให้หลุดพ้นจากเรื่องร้ายหรือภัยที่ร้ายแรงได้
6) โฮมฺ ศรีม ฮรีม กลีม คลัม คัม คณะปัตเย วร วรัท สรวะ ชันมัย วศัมนายะ สวาหา
ในมนตร์บทนี้มีพืชมนตร์อยู่มากมาย (พืช-เมล็ด) อันความหมายอย่างอื่นคือ "แสดงถึงการให้พรแห่งความสุขสำหรับตัวท่าน ข้าพเจ้าขอทูลถวายตัวเองเป็นทาสรับใช้พระคเณศวร์"
7) โอมฺ สุมุขายะ นะมะหะ
มนตร์นี้มีความหมายอยู่มากมายแต่ทุกความหมายนั้นง่ายต่อความเข้าใจ มนตร์นี้หมายความว่า ท่านจะต้องมีจิตใจที่งาม มีวิญญาณอันบริสุทธิ์ในความเป็นจริงในทุก ๆสิ่ง ด้วยการประกอบสมาะบูชาด้วยมนตร์นี้ขอให้บังเกิดสิ่งที่ดีงามและของสวยงามมาสู่ยังตัวท่าน พร้อมด้วยความสุขสันติซึ่งมั่นคงติดแน่ดวงตาของท่านไปนานแสนนานและคำพูดทุกถ้อยคำซึ่งท่านได้พูดออกมาขอให้เต็มไปด้วยพลังแห่งความรัก
8) โอมฺ เอกทันตายะ นะมะหะ
เอกทันตะ หมายถึงพระผู้ทรงมีงาเพียงข้างเดียวแห่งเศียรเป็นช้าง ซึ่งหมายความว่า พระองค์ทรงแบ่งแยกความดีและความชั่วออกเป็นสองฝ่ายและนำท่านไปสู่ความดีและเป็นที่โปรดของพระองค์ตลอดกาล ใครก็ตามที่มีจิตใจเป็นหนึ่งแน่วแน่ต่อการกราบไหว้บูชาแล้วจะได้ผลบุญตามที่ตนเองที่ปรารถนาอยากได้
9) โอมฺ กปิลายะ นะมะหะ
กปิล หมายถึงว่าท่านสามารถที่จะแต่งเติมแต้มแห่งอายุรเวท ท่านสามารถสร้างสีสันรอบๆตัวท่านเองและรอบผู้อื่นได้ด้วยมนตร์นี้ จงอาบน้ำชำระสิ่งทั้งหลายและตบแต่งมันให้สวยงามและเยียวยาให้ดีขึ้นได้ ตามมนตร์ที่ท่านได้สวดขึ้นมาจะทำให้ท่านสามารถสร้างสีสันสวยงามได้ตามที่ต้องการและจะเป็นจริงเสมอ เพราะว่ามีอำนาจในมนตร์เมื่อใดที่ท่านต้องการโดยเฉพาะอย่างในการรักษาผู้อื่นจะเป็นผลได้ในทันที
10) โอมฺ คชากรันกายะ นะมะหะ
พระกรรณแห่งพระคเณศวร์ ช้าง ทรงกว้างใหญ่ ซึ่งหมายความว่าผู้บูชาไม่จำเป็นต้องกล่าวความยาว แต่ทว่าเขาจะไม่ได้รับในสิ่งที่ไร้ค่า นอกจากสิ่งที่สำคัญที่สุด มันหมายความว่าเขาจะไปอยู่ ณ ที่แห่งหนใดก็ตาม พระองค์จะทรงเสด็จไปได้
11) โอมฺ สัมโพธรายะ นะมะหะ
หมายความว่าโลกทั้งหมดอยู่ในพระองค์ด้วยคำว่า "โอม"
12) โอมฺ วิกตายะ นะมะหะ
หมายความว่าในความเป็นจริงของโลกใบนี้เหมือนความฝันหรือเป็นการเล่นละครเท่านั้น เมื่อมีความเข้าใจดีทุกอย่างว่าโลกทั้งหมดนี้ดูเหมือนความฝันโดยมีพวกเราทั้งหมดเป็นตัวแสดงโดยที่เราแสดงบทเป็นลูก เป็นพ่อ เป็นแม่ ในความฝันนี้เราอาจถูกงูเห่ากัดตาย แต่เมื่อตื่นขึ้นมาไม่เป็นอะไรเลย ชีวิตคือการแสดง ดังนั้นทุกสิ่งทุกอย่างเราพิจารณาเหมือนหนึ่งการเล่นละคร มนตร์นี้จะทำให้ผู้สวดเข้าใจดีถึงเรื่องราวทั้งหมด
13) โอมฺ วิฆณะ นัษนายะ นะมะหะ
ในความเป็นจริงของทั้งหมด พระเจ้าทรงขจัดสิ่งกีดขวางหรืออุปสรรคทั้งหลายให้หมดสิ้นไปจากชีวิตเรา ด้วยความรู้แห่งมนตร์นี้อุปสรรคทั้งหมดและพลังอำนาจแห่งเครื่องกีดขวางทางทั้งหลายก็จะถูกทำลายลงไปได้

การขอพร
ในการบูชาพระคเณศนั้น ท่านนักปราชญ์โบราณได้มีบทสวดบทบูชาเพื่อขอพรต่อ พระคเณศซึ่งบทสวดนี้อาจจะมีความยาวมากนิดหน่อยแต่บทสวดบูชาบทนี้นั้นกล่าวว่าถ้าผู้ใด ได้หมั่นสวดท่องบูชาเป็นประจำ ผู้นั้นจะประสบความสำเร็จ ตามความ ประสงค์ทุกประการ บทสวดนี้อันที่จริงเป็นภาษาบาลี แต่เพื่อให้สะดวกในการใช้งาน จะใช้ภาษาไทยสวดทดแทนกัน
บทสวดบูชาขอพรต่อพระคเณศด้วยโศลกแปดบท
"ขอน้อมนมัสการแด่พระศรีคเณศ"
๑. ขอนมัสการ พระคณนายก พระผู้ซึ่งมีงาข้างเดียว มีกายยิ่งใหญ่ มีผิวพรรณเสมือนทองคำที่ร้อน มีท้องใหญ่ มีเนตรไพศาล
๒. ขอนมัสการ พระคณนายก ซึ่งพระองค์รัดเอวไว้ด้วยเชือกหญ้าคา และหนังกวางดำ มีงูเป็นยัชโญปวีต
(ยัช-ชะ-โย-ปะ-วีด) บนหน้าผากมีพระจันทร์เล็ก
๓. ขอนมัสการ พระคณนายก ซึ่งพระองค์ได้ประดับเพชร อัญมณีนานาบนร่าง และ สวมมาลัยไว้อย่างแปลกตา และสามารถแปลงรูปได้ตามประสงค์
๔. ขอนมัสการ พระคณนายก พระองค์มีพระพักตร์ เป็นช้าง พระองค์เป็นเทพที่สูง หูพระองค์ใช้โบกปัดเหมือนแส้จามรี ท่านถืออาวุธปาศ และอังกุศ
๕. ขอนมัสการ พระคณนายก พระองค์มีความเยี่ยมมาก พระองค์ไปร่วมสงครามตอนเทวดากับอาสูร ทำสงครามกัน โดยขึ้นบนหลังหนูเป็นพาหนะ
๖. ขอนมัสการ พระคณนายก พระองค์ผู้มีแขนยาว และได้รับการสดุดีโดยพวกยักษ์ กินนร คนธรรพ์ สิทธิ และวิทยาธร เสมอไป
๗. ขอนมัสการ พระคณนายก พระองค์ผู้ทรงเป็นที่พึ่ง มีความจงรักภักดี พระองค์เป็นผู้ประทานความสุขแก่เจ้าแม่อัมพิกา (คือมารดาของพระคเณศ ) และพระองค์ทรงห้อมล้อมไปด้วยมาตฤกา (เจ้าแม่) ทั้งหลายและมีน้ำมันอันไหลย้อยจากศีรษะ
๘. ขอนมัสการ พระคณนายก พระองค์เป็นเทวดาขจัดอุปสรรคทั้งปวง พระองค์ปราศจากอุปสรรคทั้งหลาย พระองค์ทรงประทานความสำเร็จทุกประการ
บทสวดทั้งแปดโศลกนี้บุคคลผู้ใดอ่านเป็นประจำ ผู้นั้นจะประสบความสำเร็จ ความประสงค์ทุกประการผู้นั้นเป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิทยา และทรัพย์
อ่านบทสวดแปดโศลกแล้ว อ่านต่ออีก 2 โศลก
๑. ขอนมัสการพระเทพซึ่งอยู่ในรูปช้าง อยู่ในรูปพระพรหม อยู่ในรูปพระวิษณุ และอยู่ในรูปพระศิวะ
๒. และในการสวดบูชาพระคเณศนี้ (ข้าพเจ้า) ที่ได้กระทำมากหรือน้อย ด้วยการกระทำทั้งหมดของข้าพเจ้านี้ ขอ
พระสรวาตมา (พระคเณศ) ขอพระองค์ทรงอวยพรแก่ข้าพเจ้าทุกประการเทอญ
บทสวดบูชาขอพรที่กล่าวมาทั้งหมด ให้กล่าวบทสวดบูชาก่อนแล้วค่อยขอพร ตามที่ตนเองต้องการ และตั้งจิตให้มั่นให้เป็นสมาธิระลึกถึงองค์พระคเณศผู้ขจัดอุปสรรคทั้งปวง ขอให้พระองค์ทรงพระกรุณาประสิทธิ์ประสาทพรให้ตามที่ขอทุกประการ และอย่าลืมพรที่ขอนั้นขอให้ตั้งอยู่บนหลักเหตุและผลในความเป็นไปได้ด้วย
view